สุทธิชัย จรูญเนตร อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร อุบลราชธานี, อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี, อดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

รู้จักหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย อนุทิน ชาญวีรกูล

"มีรู...มีหนู" "ที่ไหนมีโอกาส ที่นั่นมีอนุทิน" ผู้ที่ไม่เคยยอมให้อุปสรรคที่เกิดขึ้นมากลายเป็นปัญหา แม้มีโอกาสเพียงน้อยนิดก็พร้อมที่จะเดินหน้าหาทางให้ได้มาซึ่งความสำเร็จ

เรื่องข้างหน้าเป็นสิ่งที่ต้องทำ และสมาชิกต้องรับแนวคิดการแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชน เพราะปัญหาทั้งปวง มีจุดเริ่มที่เดียว คือ เงินไม่พอ ท้องไม่อิ่ม เราไปแก้ไขจุดเริ่ม ไม่ใช่แก้จุดกลาง หรือปลาย หากเราแก้ได้จะนำไปสู่ความสงบสุขสามัคคี และความมั่นคงทุกด้าน และจำเป็นจริงๆ พรรคจะไม่พูดการเมืองแต่จะพูดเรื่องแก้ปัญหาปากท้องของประชาชนเพียงอย่างเดียวเท่านี้

เราไม่เคยโกหกประชาชน เราไม่มีวันที่จะโกหกประชาชน ไม่มีความคิดที่จะโกหกประชาชน หากไปดูคลิปดูข้อชี้แจงข้อให้สัมภาษณ์ การปราศรัย การให้สัมภาษณ์ใดๆ ต่างๆ ไม่มีจุดไหนที่พรรคภูมิใจไทยไม่ได้ปฏิบัติในสิ่งที่ตัวเองได้พูดไว้

คนภูมิใจไทย ไม่ทะเลาะกับใคร ไม่ขัดแย้งกับใคร วันๆ คิดแต่เรื่องการทำมาหากินของพี่น้องประชาชนคิดกันทั้งวันทำอย่างไร จะแก้ไขปัญหาปากท้องประชาชนได้

แนวคิดในการทำงาน"สไตล์อนุทิน"
หลักการทำงานของผู้ชายคนนี้ไม่มีอะไรมาก ขอแค่ทำอย่างไรให้คนในครอบครัวมีความสุข คนในพรรคประสบความสำเร็จ ชาวบ้านอยู่ดีกินดีมีความสุข ไม่ทุกข์กาย ทุกข์ใจ มีเงินใช้ตลอดเวลา เหมือนดั่งเช่นที่เคยทำให้แก่ ซิโน-ไทยฯ ประสบความสำเร็จมาแล้ว

เส้นทางการเมือง สู่ "หัวหน้าอนุทิน"
ในแง่การเมืองจากนักธุรกิจมาเป็น “หัวหน้าอนุทิน” เพื่อการทำงานการเมืองแบบเต็มตัวเริ่มดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เมื่อ14 ตุลาคม2555 ได้แสดงบทบาทผู้นำตามวิถีของพรรคการเมืองในระบอบประชาธิปไตยต่อจากบิดา คือ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล ที่หลายคนอาจมองว่าเป็นเรื่องง่าย แต่น้อยคนที่จะรู้ว่า กว่าจะเขาจะมายืนเป็นเบอร์หนึ่งของพรรคได้ ต้องผ่านบททดสอบสภาวะผู้นำมาแล้ว ทั้งจากผู้อาวุโสและสมาชิกพรรค

....ผู้ชายคนนี้มีความน่าสนใจยิ่งขึ้น เพราะนับเป็นเวลากว่า 2 ทศวรรษที่เขาก้าวสู่แวดวงการเมืองเคยเข้าสู่วงการการเมือง โดยการรับตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ต่อมาปี2547 ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ จนก้าวเข้าสู่ความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญได้มาถึงผู้ชายคนนี้อีกครั้ง เป็นผลสืบเนื่องจากการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคม2562 ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เขาประกาศว่าการมาเป็นรัฐมนตรีไม่ได้มาเพื่อหวังเป็นเจ้าคนนายคน ไม่ได้มาเพื่อทะเยอทะยานหรือเอาประโยชน์ส่วนตน แต่เขามาแล้วรู้สึกสนุกกับงานที่ถือเป็นงานที่ดีและมีเกียรติ

มุ่งมั่นผลักดันปลดล็อค "กัญชา-กัญชง"
"อนุทิน" และสมาชิกพรรคภูมิใจไทยเล็งเห็นคุณค่าของกัญชา-กัญชงใช้ในการรักษาโรคผลิตยาทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์ นำไปสู่การกำหนดเป็นนโยบายหลักของพรรคที่วันนี้ได้ผลักดันสำเร็จไปแล้วด้วยดี

...เป้าหมายต่อไปคือการผลักดันกัญชา-กัญชงเป็นพืชเศรษฐกิจสู่กัญชาเสรีให้มาสู่สังคมไทย หากทำได้ก็จะมีประโยชน์ในการสร้างเศรษฐกิจต่อบ้านเมือง ในการทำเป็นวัตถุดิบของอุตสาหกรรมต่างๆ ได้ทั้งในเรื่องส่วนผสมอาหารเครื่องสำอางต่างๆ และสามารถขยายผลไปเป็นผลิตภัณฑ์ทางการค้าต่างๆ นี่คือขั้นตอนต่อไปที่เขา และสมาชิกจะทำต่อไปให้สำเร็จลุล่วง

"หมอหนู" กับ"เทคโนโลยีสุขภาพ"
ในแง่การทำงาน "หมอหนู" มีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนในการนำพากระทรวงสาธารณสุขสู่เทคโนโลยีสุขภาพเพิ่มคุณภาพระบบบริการเพิ่มความสะดวกสบายประชาชนง่ายต่อการเข้าถึงการรักษาลดความแออัดในโรงพยาบาล และไม่ต้องการเห็นภาพคนป่วยมานอนกับพื้นไม่ต้องการได้ยินคำว่า "คนไข้อนาถา" เพราะนี่คือประเทศไทยคนไทยต้องได้รับการบริการที่ดีเยี่ยมโรงพยาบาลที่มีความแออัด ก็ต้องกระจายคนป่วยไปยังโรงพยาบาลอื่นได้มีความร่วมมือกันระหว่างโรงพยาบาลต่างๆ

อสม. ที่ชื่อ"อนุทิน"
"อนุทิน" ได้สมัครเป็น อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) โดยไม่รับค่าตอบแทน เพราะไม่มีวิธีใดที่จะเข้าใจคนทำงานได้ดีเท่าลงมือทำงานด้วยตัวเอง เพื่อให้ได้รู้ เข้าใจ หัวใจ น้ำใจ เจตนารมณ์ อุดมการณ์ ที่ทำให้คนกลุ่มหนึ่ง เสียสละ และอุทิศตน เพื่อสุขภาพของประชาชนในชุมชน และ ส่วนรวม ที่เรียกว่า อสม. ได้ดียิ่งขึ้น ก็ต้องเป็น อสม. ด้วยตนเอง และ ทำงานเป็นอาสาสมัครสาธารณสุข ด้วยตัวเอง เขามีเจตนารมย์ที่ชัดเจนในการยกระดับ อสม. ให้ อสม.ทุกคนได้เป็นกำลังของกระทรวงสาธารณสุขอย่างมีคุณภาพ เพิ่มบทบาทและเพิ่มทักษะความรู้โดยการนำเทคโนโลยีมาใช้ทางการแพทย์ให้เกิดประโยชน์ให้มากที่สุด อสม.ต้องเป็นหมอประจำบ้านชาวไทยทุกคน อสม.ต้องใช้เทคโนโลยีอย่างชำนาญ อยู่ในพื้นที่ ต้องใช้เครื่องมือหารือเรื่องการรักษากับแพทย์ได้ อสม.ต้องทำงานให้มีประสิทธิภาพ ดูแลคนป่วยขั้นปฐมภูมิ ลดจำนวนคนไข้ในโรงพยาบาลได้

ภารกิจหัวใจติดปีก
ภารกิจนี้เริ่มต้นจาการที่ชักชวนจากคุณสุภาพปูรานิธีผู้คร่ำหวอดในวงการบินเพื่อนที่รู้จักผ่านการอบรมหลักสูตรผู้บริหารระดับสูงสถาบันวิทยาการตลาดทุน(วตท.) รุ่นที่ 9 ในช่วงปี 2553 หลังการทดลองขับเลยเกิดความหลงใหลจึงตัดสินใจซื้อเครื่องบินส่วนตัวเพื่อใช้เดินทางในชีวิตประจำวันและธุรกิจเช่าเหมาลำ...อยู่ๆวันหนึ่งได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนที่เป็นหมอทางด้านศัลยศาสตร์และทรวงอกและหัวใจโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ว่าต้องไปรับหัวใจจากคนไข้ที่สมองตายแต่หัวใจยังไม่หยุดเต้นเพื่อนำไปช่วยเหลือต่อลมหายใจผู้ป่วยอีกคนโดยใช้เวลาไม่เกิน 6ชั่วโมงเขารีบตอบรับโดยสัญชาตญาณและมนุษยธรรมทันทีนั่นคือ "หัวใจดวงแรก" ที่ภารกิจรับ-ส่งหัวใจครั้งแรกสำเร็จ

นับจากนั้นจนถึงปัจจุบัน "อนุทิน" ก็ทำภารกิจมาอย่างต่อเนื่องโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายไม่ว่าจะเป็นค่าน้ำมันหรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ เพราะเขาคิดว่าลำพังแค่ตัวผู้ป่วยจะช่วยตัวเองก็ลำบากแล้ว

"อนุทิน" ผู้หลงใหลดนตรีเป็นชีวิตจิตใจ
"อนุทิน" ผู้ชายที่มีแง่มุมหลายด้านให้ค้นหาเขาเป็นคนอัธยาศัยเรียบง่าย ตรงไปตรงมา และมีความเป็นกันเองที่สำคัญยังเป็นมิตรกับนักข่าวภาคสนาม และสานสัมพันธ์กับสื่อมวลชน คนใกล้ชิดจะรู้ดีว่าสมัยหนุ่มๆ เขาเป็นผู้ใช้ชีวิตผาดโผนตามแบบฉบับผู้ชายขนานแท้ เป็นคนรสนิยมดี เห็นได้จากฝีไม้ลายมือในการเล่นเปียโน และอิเล็กโทนที่พอฟัดพอเหวี่ยงกับนักดนตรีอาชีพเลยทีเดียว...

ที่มา https://bhumjaithai.com/party/anuthin

 

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง